หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2554

กรณีศึกษา#4 คนซื้อบ้านเซ็ง-ทำไงดีกับ-นิติบุคคล-เจ้าปัญหา


มีหมู่บ้านจัดสรรขนาดใหญ่อยู่แถวริมถนนปทุมธานี-เสนา เขตจังหวัดปทุมธานี เจ้าของโครงการดีมาก เมื่อจะเลิกโครงการก็ได้ดำเนินการให้ผู้ซื้อรายย่อยได้มีการประชุมร่วมกันเพื่อจัดตั้งนิติบุคคลฯ จนสำเร็จ โดยบริษัทเจ้าของโครงการได้ว่าจ้างบริษัทมืออาชีพด้านกฎหมายมาช่วยเป็นพี่เลี้ยงจนเสร็จสิ้น และบริษัทเจ้าของโครงการยังได้มอบทรัพย์สินทุกอย่างภายในโครงการในสภาพที่ดีให้นิติบุคคลฯที่ตั้งขึ้น พร้อมเงินกองทุนอีกหลายล้านบาท คณะกรรมการนิติบุคคลฯก็ดำเนินกิจการมาด้วยดี แต่อย่างว่าล่ะ สมมุติฐานของเว็ปไซด์นี้คาดการณ์ไม่ผิดเลย เพราะปัญหาที่ตามมาและนับวันจะกลายเป็นปัญหาหลักเกินกว่าปัญหาข้อพิพาทระหว่างผู้ซื้อรายย่อยกับเจ้าของโครงการ ที่มีครั้งเดียวแล้วถ้าจบก็เลย แต่ปัญหาอันเกิดจากคณะกรรมการนิติบุคคลฯนี่ล่ะ ที่ถือเป็นภัยคุกคามรูปแบบใหม่ของสมาชิกในหมู่บ้าน บางทีมาตรงๆ บางทีมาแบบภัยเงียบ คือคณะกรรมการฯมักจะคิดเอาเองว่าพวกเขาเท่านั้นที่รักหมู่บ้านอย่างสุดชีวิตจิตใจ (จนน้ำลายไหล) ใช้อำนาจที่กฎหมายให้อย่างเมามันจนเลยเถิด สมาชิกในหมู่บ้านรายใดริอ่านดื้อดึงขาดจ่ายค่าส่วนกลาง(เราเรียกมันว่าค่าคุ้มครอง) จะถูกผู้จัดการที่เป็นญาติกับกรรมการหมู่บ้านคนหนึ่ง ออกจดหมายทวงหนี้ทันที พร้อมสำทับว่าค่าทวงถามครั้งละ 200 บาท ดอกเบี้ยค้างจ่ายร้อยละ 10 เกิน 3 เดือนอายัดสิทธิการโอนต่อนายทะเบียนที่ดิน เกิน 6 เดือนระงับการให้บริการสาธารณูปโภคและบริการสาธารณะ และจะเข้าออกหมู่บ้านต้องแลกบัตรผ่านทุกกรณี หากยังเพิกเฉยอีกจะปิดประกาศประจานที่บอร์ดของหมู่บ้าน ณ ที่สโมสร สมาชิกไม่มีสิทธิโต้เถียงหรือแสดงความเห็นใดๆเพราะไม่มีประโยชน์ แล้วถ้าใครยังกล้าหืออีกจะมีมาตรการเก็บถังขยะไปเสีย ตัดไฟฟ้าส่องสว่างริมถนนตรงหน้าบ้าน และที่โหดสุดๆไม่ทราบฝีมือใครเหมือนกัน ถูกขโมยยกเค้าติดๆกัน 3 ครั้งในรอบเดือนเดียว ดังนั้นจึงขอเตือนเพื่อให้สมาชิกที่ริอ่านจะหือกับกรรมการฯหรือกับผู้จัดการได้สำเหนียกว่าที่นี่คือที่ไหน และคุณต้องฟังใคร ไม่เช่นนั้นคุณมีสิทธิประสาทหลอนหรือไม่ก็เอ๋อ ไม่เว้นแม้แต่สุนัขที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านที่มีสมาชิกบางท่านเมตตาให้อาหารมัน ประมาณ 10 กว่าตัว วันร้ายคืนโหดมาถึง ไม่ทราบว่าพวกมันไปทำอะไรขัดใจประธานที่ปรึกษาของคณะกรรมการหมู่บ้านเข้า เป็นเหตุให้ถึงคราวต้องถูกวิสามัญหมู่ในค่ำคืนหนึ่งอันแสนหฤโหดด้วยการวางยาพิษ ผลคือนอนตายดาษดื่นไม่เว้นแม้สุนัขมีเจ้าของที่ไม่รู้อีโน่อีเหน่วิ่งออกกำลังกายตอนเช้าแล้วเผลอไปกินยาพิษเข้าไปด้วย ศพสุนัขไม่มีญาติได้ถูกลำเลียงมาโยนลงที่คูร้างหลังศาลพระภูมิของหมู่บ้านแล้วกลบด้วยเศษหินเศษปูนอย่างรวดเร็วแน่นหนา เมื่อสมาชิกเจ้าของสุนัขที่ตายไปถามความรับผิดชอบจากประธานหมู่บ้าน ก็ได้คำตอบว่าเมื่อคืนมีโจรเข้ามาวางยาเบื่อสุนัขทั้งหมู่บ้าน เพราะโจรมีแผนจะเข้าโจรกรรมทรัพย์สินของบ้านสมาชิก นี่แหละภูมิปัญญาของคณะกรรมการหมู่บ้านฯแห่งนี้ นอกจากนี้หากพนักงานคนใดไม่ร่วมมือด้วยดี บังอาจนำความจริงไปเปิดเผยให้สมาชิกอื่นของหมู่บ้านได้ล่วงรู้ถึงความไม่ชอบมาพากลของคณะกรรมการฯ ก็จะไล่ออกทันทีภายในไม่เกิน3 วัน พร้อมข้อหาต่างๆที่ร้ายแรง แล้วกรรมการคนหนึ่งยังท้าทายให้ไปฟ้องศาลแรงงานหากเห็นว่าไม่ได้รับความยุติธรรม แล้วพนักงานคนนั้นก็ฟ้องนิติบุคคลต่อศาลจริงๆ จนคณะกรรมการฯต้องเอาเงินของนิติบุคคลฯมาจ้างทนายสู้คดี สุดท้ายนิติบุคคลฯยอมแพ้คดี แล้วยังมีอีกหลายคดีที่คณะกรรมการฯถูกฟ้อง ซึ่งแนวโน้มก็จะแพ้ทุกคดี แต่ที่แสบคือคณะกรรมการฯเล่นเอาเงินของนิติบุคคลฯไปใช้จ้างทนายสู้คดี ทั้งที่ทุกเรื่องที่ฟ้องนั้นนิติบุคคลฯไม่ได้ถูกฟ้อง แต่คณะกรรมการฯต่างหากที่ถูกฟ้องรายตัว นอกจากนี้เวลามีการประชุมใหญ่ประจำปี คณะกรรมการฯ จะมีจัดการประชุมและจัดทำรายงานการประชุมที่ผิดเพี้ยน เพื่อให้สิ่งที่คณะกรรมการฯต้องการได้ปรากฎอยู่ในรายงานการประชุม แล้วสมาชิกส่วนใหญ่ก็จะไม่สนใจเท่าไร เพราะหลังประชุมใหญ่ผ่านไปก็ต่างคนต่างอยู่ และยังมีความไม่ถูกอีกมากที่ไม่สามารถกล่าวได้หมด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น